เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [5. จัมมขันธกะ] 155. สัพพจัมมปฏิกเขปะ
คนทั้งหลายเดินเที่ยวไปตามวิหารพบเห็น จึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า
“เหมือนคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้ที่นอนสูงใหญ่ คือ

1. เตียงมีเท้าสูงเกินขนาด 2. เตียงมีเท้าเป็นรูปสัตว์ร้าย
3. พรมขนสัตว์ 4. เครื่องลาดขนแกะลายวิจิตร
5. เครื่องลาดขนแกะสีขาว 6. เครื่องลาดมีรูปดอกไม้
7. เครื่องลาดยัดนุ่น 8. เครื่องลาดขนแกะวิจิตรด้วยรูป
สัตว์ร้าย เช่นราชสีห์และเสือ
9. เครื่องลาดขนแกะมีขน 2 ด้าน 10. เครื่องลาดขนแกะมีขนด้านเดียว
11. เครื่องลาดปักด้วยไหมประดับรัตนะ 12. เครื่องลาดผ้าไหมประดับรัตนะ
13. เครื่องลาดขนแกะขนาดใหญ่ที่นาง 14. เครื่องลาดบนหลังช้าง
ฟ้อน 16 คนร่ายรำได้
15. เครื่องลาดบนหลังม้า 16. เครื่องลาดในรถ
17. เครื่องลาดทำด้วยหนังเสือดาว 18. เครื่องลาดหนังชะมด
19. เครื่องลาดมีเพดาน 20. เครื่องลาดมีหมอน 2 ข้าง
รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ”

155. สัพพจัมมปฏิกเขปะ
ว่าด้วยทรงห้ามแผ่นหนัง

เรื่องพระฉัพพัคคีย์ใช้หนังผืนใหญ่
[255] สมัยนั้น พวกภิกษุฉัพพัคคีย์รู้ว่า “พระผู้มีพระภาคทรงห้ามที่นอน
สูงใหญ่” จึงใช้หนังผืนใหญ่ คือ หนังสีหะ หนังเสือโคร่ง หนังเสือเหลือง แผ่นหนัง
เหล่านั้นตัดตามขนาดเตียงบ้าง ตัดตามขนาดตั่งบ้าง ปูลาดไว้ภายในเตียงบ้าง
ปูลาดไว้ภายนอกเตียงบ้าง ปูลาดไว้ภายในตั่งบ้าง ปูลาดไว้ภายนอกตั่งบ้าง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :28 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [5. จัมมขันธกะ] 155. สัพพจัมมปฏิกเขปะ
คนทั้งหลายเดินเที่ยวไปตามวิหารพบเข้า จึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า
“เหมือนคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้หนังผืนใหญ่ คือ
หนังสีหะ หนังเสือโคร่ง หนังเสือเหลือง รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ”
ต่อมา พวกภิกษุฉัพพัคคีย์รู้ว่า “พระผู้มีพระภาคทรงห้ามหนังผืนใหญ่” จึงใช้
หนังโค ตัดตามขนาดเตียงบ้าง ตัดตามขนาดตั่งบ้าง ปูลาดไว้ภายในเตียงบ้าง
ปูลาดไว้ภายนอกเตียงบ้าง ปูลาดไว้ภายในตั่งบ้าง ปูลาดไว้ภายนอกตั่งบ้าง

เรื่องภิกษุใจบาปขอหนังลูกโค
มีภิกษุใจบาปรูปหนึ่งเป็นพระใกล้ชิดตระกูลของอุบาสกใจบาปคนหนึ่ง เช้าวัน
หนึ่ง ภิกษุนั้นครองอันตรวาสก ถือบาตรและจีวรเดินไปบ้านของอุบาสกนั้น นั่ง
บนอาสนะที่เขาจัดไว้ ลำดับนั้น อุบาสกใจบาปนั้นเข้าไปหาภิกษุใจบาปถึงอาสนะ
ไหว้แล้วนั่งลง ณ ที่สมควร อุบาสกใจบาปนั้นมีลูกโครุ่นรูปร่างงดงาม น่าดู น่าชม
คล้ายลูกเสือเหลือง ภิกษุใจบาปนั้นจึงมองลูกโคนั้นด้วยความสนใจ
อุบาสกถามภิกษุว่า “พระคุณเจ้า ท่านมองดูลูกโคอย่างสนใจ เพื่ออะไรกัน”
ภิกษุตอบว่า “อุบาสก อาตมาอยากได้หนังของมัน”
เขาจึงฆ่าลูกโคแล้วถลกหนังมาถวายภิกษุใจบาปนั้น ลำดับนั้น ภิกษุใจบาป
นั้นใช้สังฆาฏิห่อหนังเดินจากไป แม่โคจึงเดินตามภิกษุเพราะความรักลูก
ภิกษุทั้งหลายถามภิกษุใจบาปนั้นว่า “ทำไมแม่โคจึงเดินตามท่านเล่า”
ภิกษุนั้นตอบว่า “ผมเองก็ไม่ทราบว่า มันเดินตามมาเพราะเหตุใด”
พอดีสังฆาฏิของภิกษุใจบาปนั้นเปื้อนเลือด ภิกษุทั้งหลายจึงกล่าวอย่างนี้ว่า
“สังฆาฏิผืนนี้ท่านห่ออะไรไว้”
ภิกษุนั้นจึงบอกเรื่องนั้นให้ภิกษุทั้งหลายทราบ

 


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :29 }